วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564

กีรติ ทองเนตร งานนวัตกรรม

อาจารย์และนิสิตภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ พัฒนาเครื่องมือตรวจเชื้อโควิด-19 จากกลิ่นสารเคมี ที่จำเพาะของแบคทีเรียที่อยู่ในเหงื่อได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ใช้ง่าย เก็บตัวอย่าง 15 นาที รู้ผลใน 30 วินาที เริ่มทดลองตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อตามชุมชนแล้ว


จากความสำเร็จของ “สุนัขดมโควิด-19” โครงการความร่วมมือระหว่างคณะสัตวแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัทเชฟรอนประเทศไทย สํารวจและผลิต จํากัด ที่ใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจเหงื่อเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการในชุมชน วันนี้ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เผยนวัตกรรมล่าสุด “เครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิดแบบพกพา” (Portable sweat test for COVID detection) หวังเสริมทัพสุนัขดมกลิ่นในการเร่งตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น 

รถดมไวที่ใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจเหงื่อเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19

“ที่ผ่านมา เราได้ร่วมงานกับ “รถดมไว” ลงพื้นที่ตรวจเชื้อโควิด-19 ในชุมชนที่มีผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เราจึงลองนำตัวอย่างการคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากสุนัขดมกลิ่นมาตรวจดูว่า จริงๆ แล้วสารที่น้องหมาแยกแยะได้ว่าผู้ใดติดเชื้อนั้นคือสารหรือกลิ่นอะไร” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชฎิล กุลสิงห์ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงที่มาของการพัฒนานวัตกรรม

ผศ.ดร.ชฎิล กุลสิงห์ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ

“จากการศึกษาสารตัวอย่าง เราพบว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จะมีสารเคมีบางชนิดที่ชัดเจนมากและแปลกไปจากสารอื่นๆ เราจึงนำข้อค้นพบนี้มาพัฒนาเป็นเครื่องมือตรวจกลิ่น ที่น่าจะมาจากสารอะโรมาติกที่ผลิตจากแบคทีเรียบางชนิดในเหงื่อของผู้ติดเชื้อโควิด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจเชื้อโควิด-19 จากสารเคมีเหล่านี้”

กลิ่นเหงื่อพิสูจน์การติดเชื้อไวรัสได้อย่างไร

กลิ่นเหงื่อในคนอาจมีได้มากกว่า 100 กลิ่น แต่ละคนมีกลิ่นจำเพาะที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นที่มาจากแป้ง โรลออน และกลิ่นของแบคทีเรียที่กินอาหารในเหงื่อหรือสารคัดหลั่งใต้ผิวหนัง แบคทีเรียเหล่านี้จะขับสารออกมาเป็นกลิ่นที่ปนมากับเหงื่อ

“สำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แบคทีเรียจะตอบสนองต่อเชื้อไวรัสอย่างไม่เป็นปกติและผลิตบางกลิ่นที่ต่างออกไป ซึ่งจากการศึกษา เราพบว่ามีหลายกลิ่นสำคัญที่มีลักษณะจำเพาะอาจจะบ่งบอกว่าเป็นกลิ่นของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19” ผศ.ดร.ชฎิล อธิบาย

การตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยสารเคมีในเหงื่อ

เครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 พัฒนามาจากเครื่องตรวจวัดทางเคมีวิเคราะห์แบบพกพาที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด ซึ่งมีการใช้ตรวจวัดสารเคมีที่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมต่างๆ อยู่แล้วโดยทั่วไป แต่สำหรับการตรวจเชื้อโควิด-19 ผศ.ดร.ชฎิล ได้ใส่วัสดุที่เป็นตัวกรองจำเพาะเข้าไปที่ตัวเครื่องมือเพื่อให้สามารถเลือกตรวจวัดค่าสารสำคัญที่บ่งบอกถึงการมีเชื้อไวรัสโควิด-19

เครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19

“ชุดตรวจประกอบด้วยขวดแก้วและแท่งสำลี ซึ่งผู้ตรวจคัดกรองจะได้รับกันคนละชุด เวลาตรวจก็นำแท่งสำลีไปหนีบไว้ที่รักแร้ของผู้รับการตรวจ ทิ้งแท่งสำลีไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นนำแท่งสำลีที่ดูดซับเหงื่อแล้วมาใส่ในขวดแก้ว ฆ่าเชื้อขวดแก้วด้วยรังสี UV ก่อนนำมาตรวจวัดด้วยเครื่องมือ ซึ่งขั้นตอนนี้ เจ้าหน้าที่จะใช้สายดูดตัวอย่างในปริมาณที่เหมาะสมและใช้ความดันอัดเข้าไปในเครื่องตรวจเพื่อตรวจสอบผล” ผศ.ดร.ชฎิล เล่าขั้นตอนการเก็บตัวอย่างเหงื่อเพื่อตรวจเชื้อโควิด-19

เจ้าหน้าที่เตรียมตัวอย่างเพื่อตรวจสอบผล

ข้อดีของการตรวจด้วยวิธีการนี้คือสามารถนำมาดัดแปลงเพื่อตรวจพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์หรือจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ ได้

“แม้ว่าเชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์อย่างไรก็ตาม กลิ่นสารเคมีในเหงื่อของผู้ติดเชื้อไวรัสจะแสดงผลแตกต่างจากกลิ่นของผู้ที่ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่แล้ว เครื่องมือตรวจกลิ่นน่าจะสามารถรับมือกับสารเคมีที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามการกลายพันธุ์ได้ สิ่งที่ต้องทำคือการเปลี่ยนวัสดุกรองให้สัมพันธ์กับไวรัส” ผศ.ดร.ชฎิล เสริม

รู้ผลเร็ว แม่นยำ เสริมทีมตรวจคัดกรอง

จากการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบพกพากับคนจำนวน 2,000 คน พบว่าเมื่อทำการทดลองตรวจกลิ่นเพื่อคัดกรองผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 นี้ควบคู่กับการตรวจ PCR (Polymerase Chain Reaction) จะพบว่าผลการตรวจสอดคล้องสัมพันธ์กันโดยมีความไว 95% และความจำเพาะถึง 98% อย่างไรก็ดี ผศ.ดร.ชฎิล แนะว่าหากเครื่องตรวจกลิ่นแสดงผลเป็นบวก ผู้รับการตรวจก็ควรไปตรวจแบบ PCR เพื่อยืนยันผลที่แน่นอนอีกที

เครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบพกพา

ปัจจุบันเครื่องมือตรวจกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิดแบบพกพายังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา แต่ก็ได้ทดลองใช้งานจริงแล้ว โดยทางจุฬาฯ ร่วมมือกับกรมควบคุมโรคและหน่วยงานภาครัฐเข้าไปตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อในแหล่งชุมชนต่างๆ

“เครื่องมือนี้ช่วยหนุนการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชนและคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นใหม่ในแต่ละวัน และยังทำงานร่วมกับ “รถดมไว” เพื่อช่วยตรวจคัดกรองแทนสุนัขดมกลิ่นในช่วงที่สุนัขพักเหนื่อยได้อีกด้วย” ผศ.ดร.ชฎิล กล่าวทิ้งท้าย

การทำงานร่วมกับรถดมไวเพื่อตรวจคัดกรองในชุมชน

กีรติ ทองเนตร งานนวัตกรรม

 

นวัตกรรมยานยนต์ ความทันสมัยในยุคนี้สามารถนำมาช่วยพัฒนาของรถยนต์ในปัจจุบันที่ได้มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยกันได้มากหรือไม่?

นวัตกรรมยานยนต์ รถยนตร์ในปัจจุบันนี้ ถือว่าได้พัฒนาไปไกลมาก ที่มีความแตกต่าง ไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการที่มีเทคโนโลยี หรือที่เราเรียกกันว่า  เทคโนโลยียานยนต์ เข้ามาช่วยให้รถยนต์ยุคใหม่ ใช้งานได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และยังเป็นรถยนต์ที่สามารถ ตัดสินใจแทนคนขับได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ สามารถวิ่งไปหาที่จอด โดยไม่ต้องอาศัยคนขับ

และยังสามารถวิ่งได้เอง บนทางหลวง หรือถนนทั่วไป โดยที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ หรือพูดได้เต็มปากเลยว่า เป็น ยุคแห่งยานยนต์ แบบไร้คนขับ ที่เต็มรูปแบบอีกด้วย แต่ยังไม่ได้เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ แต่ได้มีการค้นค้นต้นแบบ ของรถยนต์ไร้คนขับนี้

ซึ่งจะมีระบบยานยนต์ไร้คนขับ ที่จะแบ่งออกเป็นระดับ และรถยนต์ในแต่ละยี่ห้อ โดยจะมีระบบที่ใช้ในรถ ที่เป็นของค่าย Volvo ที่เป็นการทำงานอัตโนมัติ ที่เป็นบางอย่างเท่านั้น โดยจะเป็นเทคโนโลยี FUNCTION SPECIFIC AUTOMATION ที่มีระบบการควบคุม ความเร็วอัตโนมัติของรถยนต์

เพื่อให้ปลอดภัยจากการใช้งาน และระบบช่วยถอยแบบอัตโนมัติ ที่ทำให้สะดวกสบายขึ้น และยังระบบที่ควบคุม การรักษาช่องทางระหว่างวิ่ง แต่ในระบบอัตโนมัตินี้นี้ ผู้ขับขี่จะต้องรับผิดชอบ ในการควบคุมรถยนต์ ตลอดเวลาการใช้งาน

นวัตกรรมยานยนต์

โดยมือจะต้องจับพวงมาลัย และเท้าอยู่บนคันเร่ง ซึ่งระบบที่พูดถึงนี้ ในปัจจุบันมีใช้กันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยจอดขนาน ที่เป็นแบบอัตโนมัติ ในรถยนต์ฟอร์ด และ โวลโว ที่หลายคนต้องเคยเห็น และมีระบบอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งอยู่ในข่วงการทดลอง ที่เราจะได้เห็นในเร็วๆนี้

ต้นแบบรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดและกำลังจะเกิดขึ้นจริงในไม่ช้านี้

ถ้าหากพูดถึงความทันสมัย ของรถยนตร์ในอนาคต ก็มี ยานยนต์แห่งอนาคต ที่น่าสนใจอย่างมาก ซึ่งเป็น รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า กับรถยนต์แบบคลาสสิค CLASSIC CAR ELECTRIC MOTOR CONVERSION ซึ่งกำลังเป็นกระแสนิยม ที่เริ่มมีคนยุโรปให้ความสนใจ โดยมีการคุมเรื่องของมลภาวะ หลายคนรู้กันดีแล้วว่า รถคลาสสิคในแต่ละรุ่นนั้น

จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ การควบคุมมลพิษทางอากาศ ที่เป็นจุดอ่อนของรถคลาสสิค แต่รถคลาสสิคจะมีรูปทรง ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ จึงได้มีการดัดแปลง โดยการนำเครื่องยนต์เก่า ที่ไร้ประสิทธิภาพออก และแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีเสียงที่เงียบและอึด ในการเข้าไปแทนที่ หลายอาจจะมองว่า มันจะขาดความเป็นคลาสสิค แต่ถ้าหากได้ลองรถยนต์

ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าดีๆ จะสัมผัสถึงแรงบิด ของรถยนต์อย่างมหาศาล ที่สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องรอผลิตนั้น ถ้าหากว่าได้เทียบกับ เครื่องยนต์แบบดั้งเดิม ที่มีปัญหาเล็กๆน้อยๆ หรือรถยนต์ไม่มีความแรง แถมยังปล่อยมลภาวะอีกมาก ที่มีดีก็แค่เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ และมันถึงเวลาที่จะนำ รถคลาสสิคมาดัดแปลง ให้มันเกิดแระโยชน์สูงสุด

เทคโนโลยียานยนต์

คือการทำให้ใช้งานได้ดีอีกครั้ง ด้วยหัวใจหลักพลังงานไฟฟ้า ที่จะออกมาดีไม่ใช่น้อย โดยได้มีนักพัฒนาที่นำ รถมัสแตงรุ่นที่ 60 ที่นำไปติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำให้ได้กำลัง 750 แรงม้า ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 3.5 วินาที เท่านั้น ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

นวัตกรรมยานยนต์ ทันสมัยที่สุดกับรถยนตร์ในอนาคตที่จะทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น

รถ อนาคต ที่เราจะได้เห็นกันเร็วๆนี้ ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่กำลังเข้ามามีบทบาท ซึ่งได้มีการเปิดตัว รถพลังงานไฟฟ้าอย่าง เทสลา โมเดล เอส และ นิสสัน ลีฟ ซึ่งมีเครื่องยนต์ที่เงียบ ทำให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล และยังไม่ปล่อยมลภาวะ แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในบ้านเรา เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังไม่มีความเชื่อมั่น

เนื่องจากสถานีที่ใช้สำหรับ ชาร์จพลังงานไฟฟ้านี้ ยังไม่ครอบคลุมในไทย ซึ่งมีเพียงแค่สถานีชาร์จไฟ ที่เป็นแบบนำร่องเท่านั้น โดยจะมีสถานีชาร์จไฟฟ้า ที่เป็นของ ปตท อยู่ที่ถนนชัยพฤกษ์ โดยขณะที่ โตโยตา ได้มีการออกมาแถลงข่าว เกี่ยวกับรถพลังงานไฮบริด นวัตกรรมรถยนตร์ โดยการมีมอเตอร์ไฟฟ้า เข้ามาเป็นตัวช่วย ในการขับเคลื่อนรถยนต์ ที่จะทำให้สิ้นเปลือง น้ำมันน้อยลงหลายเท่า และมีความคุ้มค่า

และเหมาะสมกับราคา ที่สามารถใช้งานได้ดี โดยเมื่อซื้อแล้วเราสามารถ ใช้งานได้ในทันที โดยไม่ต้องรอการลงทุน สำหรับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ และไม่ต้องกังวลว่า ระยะทางในการวิ่งแบบจำกัด เหมือนรถพลังงานไฟฟ้า

ยานยนต์แห่งอนาคต

ซึ่งรถพลังงานไฟฟ้า จะได้รับความนิยม ต่อเมื่อมีแบตมีคุณภาพ และสามารถวิ่งได้ ในระยะทางไกลๆ และมีสถานีชาร์จไฟฟ้า ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมไปถึงราคา ของอะไหล่ที่ไม่แพง และจะต้องมีศูนย์บริการ คงในอีกไม่ช้านี้ เราจะได้ใช้งานกัน

เทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยให้รถยนตร์มีความทันสมัยมากที่สุด

อีกในไม่ช้านี้ เราจะได้พบกับ นวัตกรรมรถยนต์ ที่มีความทันสมัย ที่ได้มีการพัฒนาวงการรถยนต์ ให้สามารถใช้งานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความทันสมัยที่สุด โดยเราจะพามาชม ระบบออกเมนเทด เรียลิที AUGMENTED REALITY ซึ่งเป็นกระจกหน้าแบบแอคทีฟ ACTIVE WINDESCREEN DISPLAY ที่เราเห็นได้ระบบนี้ อยู่บนในสมาร์ทโฟน

รถ อนาคต

โดยเป็นจอภาพที่แสดงภาพเสมือน โดยจะทับไปกับภาพจริง ที่ได้ถ่ายออกมาจากกล้อง ซึ่งได้นำระบบนี้เข้ามา ทำงานในรถยนต์ ที่มีหลากหลายในเรื่องของ ระบบการนำทาง ที่ใช้กระจกหน้าทั้งบาน ให้บอกถึงเส้นทางต่างๆ ที่ทับไปกับวิวของท้องถนน ที่เรามองเห็นในการขับรถ ได้มีการจำลองภาพคู่แข่ง

ซึ่งเป็นโหมดการทำงาน ที่เรียกกันว่า แข่งกับรถผี เพื่อให้เราสามารถแข่งรถ ในจินตนาการของเรา ในการจับรถบนถนน และมีแนวคิดของ แลนด์ โรเวอร์ ที่เป็นการฉายภาพ ในส่วนของพื้นใต้ท้องรถ โดยการทับแนวฝากระโปรง โดยทำบนกระจกหน้า เพื่อให้ได้ภาพที่เหมือนว่า ฝากระโปรงแบบล่องหน เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจ ในการลุยพื้นที่ทุรกันดาร ที่น่าสนใจอย่างมาก

และมีหลายๆระบบ ที่จะนำมาพัฒนารถยนต์ ให้มีความทันสมัยขึ้น และระบบเหล่านี้ กำลังอยู่ในข่วงการทดลอง ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะได้เห็นกันเร็วๆนี้ และยังมีอีกหลายๆอย่าง ที่เกี่ยวกับวงการยานยนต์ ที่น่าสนใจอย่างมาก ในอนคตมีจริงแน่นอน

นวัตกรรมยานยนต์ นวัตกรรมยายยนตร์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงรถยนตร์ในปัจจุบัน

รถในปัจจุบันนี้ ได้พัฒนาไปไกลมาก ที้งรถที่ใชัพลังงานไฟฟ้า หรือใช้พลังงานต่างๆ ซึ่งพูดได้เลยว่าเป็นการพัฒนา ให้รถยนตร์ของยุคใหม่ ให้มีความทันสมัย ที่พัฒนากันแบบต่อเนื่อง ที่เราได้เห้นในปัจจุบัน ซึ่งมีนวัตกรรมยานยนต์ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อพัฒนาให้รถยนต์ มีความทันสมัยที่สุด ซึ่งจะมีระบบรถยนต์ ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยจะระบบตรวจสอบ สุขภาพของผู้ขับขี่

นวัตกรรมรถยนต์

โดยใช้ระบบ ACTIVE HEALTH MONITORING SYSTEM เพื่อเช็คความพร้อม ของผู้ขับขี่มนแต่ละครั้ง ซึ่งระบบนี้ริเริ่มโดย ฟอร์ด ซึ่งมีการการติดตั้งอุปกรณ์ ที่ใช้สำหรับตรวจสอบ ข้อมูลทางชีวภาพของ ร่างกายของผู้ใช้รถ ซึ่งจะติดตั้งไว้คู่กับ บนพวงมาลัย และสายเข็มขัดนิรภัย

เพื่อเป็นการตรวจสอบ การเต้นของหัวใจ หรืออุณหภูมิร่างกาย และจังหวะการหายใจ ถ้าหากระบบได้ตรวจสอบ และพบกับการทำงาน ที่มีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจวาย ที่สามารถนำรถ เข้าข้างทางได้ปลอดภัย และถ้าหากทำงานร่วมกับ ระบบขับขี่แบบไร้คนขับ ก็จะช่วยพาเราไปยัง โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อรักษาได้ทันท่วงที หรือจะเรียกหน่วยกู้ชีพ ที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทันที

ซึ่งระบบที่ทีนสมัยนี้ เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก ของผู้ขับขี่ที่เป็นผู้สูงอายุ และยังได้มีการคิดค้น ในการวัดปริมาณแอลกอฮอล ได้ก่อนจะสตาร์ทรถ ก็จะทำให้อุบัติเหตุ ที่ได้เกิดบนท้องถนน ลดลงได้อย่างแน่นอน เป็นระบบยานยนต์ ที่มีความทันสมัยที่สุด

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2564

รายงาน อจฟ

 หดกทาหสก่ดวาสหฟ่าสอทฟอ่ดฟสเ่นฟ

หกดากหาดฟ่หก

หดากฟ่ดาส่ฟหกาสด

มกหฟาสด่สฟหกด








วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2564

แนะนำตัวละคร ROV ทั้ง 6 แบบ อย่างน้อยแบบละ 5 ตัว

 Assassin


เป็นแอสฯ ที่มีแดเมจเป็นเวทย์

Mage

เตียวเสี้ยน เป็นตัวละครเมจที่ทำแดเมจแบบเวทย์ มีสามสกิล


Fighter

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2564